ประกาศ

คอร์สเรียน IELTS เดือนมกราคม วันเสาร์-อาทิตย์ เริ่ม 15 มกราคม, วันธรรมดาช่วงเย็น เริ่ม 21 มกราคม, วันธรรมดาช่วงบ่าย เริ่ม 26 มกราคม ตรวจสอบเวลาเรียนจากตารางได้เลยค่ะ
คอร์สเรียน Fundamentals of Academic Writing วันเสาร์-อาทิตย์ เริ่ม 22 มกราคม, วันธรรมดาช่วงบ่าย เริ่ม 28 มกราคม คอร์สนี้เต็มเร็ว หากสนใจแนะนำให้โทรจองที่ก่อนเลยค่ะ
คอร์สเรียน Grammar Brush up วันเสาร์-อาทิตย์ เริ่ม 23 มกราคม, วันธรรมดาช่วงเย็น เริ่ม 2 กุมภาพันธ์ ค่ะ
คอร์สเรียน Intensive IELTS Writing วันธรรมดาช่วงเย็น เริ่ม 19 มกราคม, วันเสาร์-อาทิตย์ เริ่ม 5 กุมภาพันธ์ ค่ะ
คอร์สเรียน Speaking & Pronunciation for IELTS วันธรรมดาช่วงเย็น เริ่ม 13 มกราคม, วันเสาร์-อาทิตย์ เริ่ม 5 กุมภาพันธ์ ค่ะ
คอร์ส English for Academic Purpose (Pre-Sessional English) วันธรรมดาช่วงเย็น เริ่ม 16 กุมภาพันธ์ ค่ะ

สุดยอด 7 ไวยากรณ์อังกฤษเพื่อพิชิต IELTS (ตอนที่ 1)

สวัสดีค่ะ น้องๆ ที่เคยสอบ IELTS มาแล้วก็คงจะรู้ว่าในการสอบ ไม่มีการวัดความรู้ทางไวยากรณ์โดยตรง นั่นคือ ไม่มีการสอบไวยากรณ์อังกฤษเหมือนข้อสอบประเภทอื่นๆ

บางคนก็คงจะคิดว่า งั้นก็สบายเรา เพราะไม่มีการวัดความรู้ทางไวยากรณ์ ก็ไม่ต้องอ่านหนังสือ ไม่ต้องเตรียมตัวอะไรมาก เขียนผิด พูดผิด ก็คงสอบผ่านอยู่ดี พาลให้ไม่มีความคิดว่าจะต้องเรียนไวยากรณ์ภาษาอังกฤษเพิ่มเติม

ช้าก่อนนะคะ น้องๆกำลังเข้าใจผิดอย่างมากเลยค่ะ การที่ข้อสอบ IELTS ไม่มีการวัดความรู้ทางไวยากรณ์โดยตรง ไม่ได้หมายความว่าจะสามารถละเลยความรู้ด้านนี้นะคะ ความจริงก็คือ ไวยากรณ์จะเป็นปัจจัยที่ช่วยให้เพื่อนๆ ใช้ภาษาได้อย่างถูกต้อง สละสลวย ทั้งการพูด การอ่าน และการเขียน และที่สำคัญคือ ได้คะแนนสอบมากกว่าผู้เข้าสอบคนอื่นๆ นี่คือสิ่งที่ IELTS Examiner ใช้วัดและประเมินผลผู้สอบอยู่ค่ะ

รู้อย่างนี้แล้ว เราจะทำอย่างไรให้เพิ่มพูนทักษะทางไวยากรณ์ล่ะคะ

มีหลายวิธีค่ะ ตั้งแต่การอ่านหนังสือ การทำแบบฝึกหัด ไปจนถึงการเข้าเรียนเสริม ที่สถาบันของเราก็มีคอร์ส Grammar Brush-Up ให้เพื่อนๆ ที่สนใจจะเพิ่มพูนหรือปัดฝุ่นความรู้ไวยากรณ์อังกฤษด้วยนะคะ สนใจสอบถามได้เลยค่ะ

7 เทคนิคไวยากรณ์อังกฤษพิชิต IELTS

ในบทความนี้ จะนำเสนอสุดยอดไวยากรณ์อังกฤษที่สำคัญเจ็ดอย่าง ให้เพื่อนๆ นำไปศึกษาเพิ่มเติม ส่วนใครที่รู้อยู่แล้ว อย่าลืมปัดฝุ่นกัน ด้วยการทำแบบฝึกหัดในแต่ละหัวข้อด้วยนะคะ หากไม่เข้าใจตรงไหน ลองถามอาจารย์ผู้สอนที่สถาบันอ็อกซ์บริดจ์ของเราได้ค่ะ

1. The Simple Aspect

ในการสอบ IELTS เพื่อนๆ จำเป็นจะต้องใช้กริยาให้ถูกกับ Aspect ซึ่งก็มีด้วยกันสองประเภท นั่นคือ simple และ progressive aspect ค่ะ

โดยเราใช้ simple aspect ในการบอกกิจกรรม หรือการกระทำว่าเกิดขึ้นอย่างสม่ำเสมอ เป็นประจำ เป็นกิจวัตร หรือการแสดงความจริงก็ได้ เช่น

I often read business magazines online.

ในส่วนของ progressive aspect เราใช้เพื่อบอกเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในช่วงเวลาใดเวลาหนึ่ง คือเป็นการกระทำที่กำลังดำเนินอยู่ในช่วงเวลาใดเวลาหนึ่งเท่านั้น เช่น

am reading an interesting book.

นอกจากนี้ เพื่อนๆ จะต้องใช้ aspect ให้เหมาะสมกับช่วงเวลาด้วย เช่น ถ้าต้องการพูดถึงความจริงหรือกิจวัตรที่เกิดขึ้นในอดีต แต่ไม่เกิดแล้วในปัจจุบัน ก็ต้องใช้รูป past simple แต่ถ้าเป็นกิจกรรมที่กำลังดำเนินอยู่ในปัจจุบันก็ต้องใช้รูป present progressive

เอาล่ะ ลองทำแบบฝึกหัดด้านล่าง แล้วมาดูเฉลยในตอนท้ายค่ะ

  1. I _____ (exercise) every other day, but I _____ (not like) going to sports competitions.
  2. The graphs _____ (show) how the total number of students _____ (change) in the past 5 years.
  3. I _____ (do) an internship this spring, so I _____ (not want) to take another job just yet.
  4. Alan _____ (watch) a movie when I _____ (arrive).

 

2. The Simple Past and Present Perfect Verb Tenses

ความแตกต่างพื้นฐานของทั้งสอง tense นี้คือ Simple Past บอกเหตุการณ์ในอดีต ที่เกิดขึ้นและจบลงไปแล้ว ไม่มีความเกี่ยวเนื่องกับปัจจุบัน แต่ Present Perfect ผลของเหตุการณ์ที่เกิดไปแล้ว มักจะยังคงอยู่ในปัจจุบันค่ะ

การใช้ทั้งสอง tense นี้ให้ถูกต้องในการสอบ IELTS จะช่วยให้เพื่อนๆ ได้คะแนนดีกว่าคนอื่น เพราะ IELTS Examiner จะรู้ทันทีว่า เรามีความสามารถในการวิเคราะห์เหตุการณ์ว่า ผลแห่งการกระทำนั้นเกี่ยวข้องกับปัจจุบันหรือไม่ นั่นคือ การสามารถบรรยายเหตุการณ์โดยเชื่อมโยงอดีตเข้ากับปัจจุบันได้ค่ะ

ลองทำแบบฝึกหัดนี้ดูนะคะ

  1. I ______ (start) studying for the IELTS exam two months ago but I still ______ (not decide) whether to move to Australia.
  2. Based on the bar chart, more women than men ______ (take) the course last year.
  3. Entertainment ______ (change) a lot since people ______ (start) using the Internet every day.

 

3. The Passive Voice

ในการสอบ IELTS การใช้ Passive Voice มีความสำคัญ โดยเฉพาะการสอบเขียน เพราะเพื่อนๆ จะต้องรายงานเกี่ยวกับสถิติ เหตุการณ์ต่างๆ ที่เป็นตัวอย่างในหัวข้อที่ข้อสอบกำหนดให้

โดย Passive Voice นั้น ใช้แสดงเหตุการณ์ที่ผู้ถูกกระทำเป็นประธานในประโยค กริยาแท้ของประโยคจะเป็น past participle มี Verb to Be นำหน้าซึ่งจะบอกว่าเหตุการณ์นั้น เป็นอดีต ปัจจุบัน หรืออนาคต ค่ะ ลองดูตัวอย่างข้างล่างนี้ค่ะ กริยาที่ทำตัวหนาเอียง เป็นรูป passive voice นะคะ

Almost 50% more courses were chosen in the second semester as compared to the first one.

More research needs to be done before choosing a certain supplier.

 

เห็นตัวอย่างแล้ว ก็ต้องทำแบบฝึกหัด ถึงจะรู้ว่าเข้าใจหรือไม่ค่ะ

  1. As can______ (see) from the figures, the number of first year students decreased dramatically in the last five years.
  2. As ______ (show) in the diagram, there was a marked increase in the number of students driving their own cars to school.
  3. More language courses ______ (choose) by students in the second semester.

 

4. Modal Verbs

Modal Verbs เป็นกริยาช่วยที่ใช้เพื่อบอก ความเป็นไปได้ ความสามารถ การแนะนำ การสั่ง หรือการแสดงความสุภาพค่ะ

จริงๆ แล้ว เจ้า Modal Verbs นี้มีหลายตัวด้วยกัน แต่ที่เห็นและใช้บ่อยๆ คือ Could, may, might โดย

   4.1 could, might และ may ใช้บอกความเป็นไปได้ในอนาคต แต่ถ้าใช้ may ความเป็นไปได้ของเหตุการณ์ที่เกิดในอนาคตจะมากกว่า might นะคะ

มาดูตัวอย่างกันค่ะ

We could be late if we stop for drinks now.

may want to spend my holiday in Europe, but everything depends on my partner.

We might want to move to a different class if the problem persists.

 

    4.2 ส่วน Must ใช้แสดงคำสั่งก็ได้ ถ้าใช้บอกความเป็นไปได้ แสดงว่าน่าจะมีความเป็นไปได้สูง ในขณะที่ must have แสดงความเป็นไปได้ในอดีตค่ะ เรามาดูตัวอย่างข้างล่างกันนะคะ

There must be a better explanation for why they haven’t arrived yet.

They must have changed their marketing strategy to afford such good prices.

 

ในการสอบ IELTS ไม่ว่าจะเป็นการพูด การอ่าน และการเขียน เพื่อนๆ จะพบเจอหรือจะต้องใช้ Modal Verbs กันบ่อยๆ เพื่อแสดงความคิดเห็น ความเป็นไปได้ หรือการแนะนำต่างๆ ดังนั้น เพื่อนๆ จึงควรฝึกใช้ให้เป็นนะคะ

อย่างไรก็ตาม ก็อย่าเน้นใช้แต่ modal verbs จนมากเกินไป เพราะท้ายที่สุดแล้ว โครงสร้างประโยคที่ใช้ Modal Verbs นี้ ถือว่าเป็นโครงสร้างที่ค่อนข้างง่าย เนื่องจาก หลัง Modal Verbs เราก็จะใส่ Infinitive ตามหลังกันเป็นหลัก เท่ากับว่า ไม่ได้มีโอกาสแสดงความสามารถในการผัน verb เท่าที่ควรค่ะ  

มาทำแบบฝึกหัดกันหน่อยนะคะ   

  1. This _____ (not be) your phone. I know you had a different ringtone.
  2. It _____ (be) Donna at the door. She called to say she is sick.
  3. They _____ (change) their plans, but they haven’t said anything to me.

ในตอนนี้ เราจะจบกันด้วยไวยากรณ์ทั้งสี่ประเภทตามที่ได้เสนอมาข้างบนนะคะ ส่วนในตอนหน้า เพื่อนๆ จะได้รู้ว่าไวยากรณ์ที่เหลือมีอะไรอีกบ้างที่สามารถนำไปใช้ได้กับการสอบ IELTS

ก่อนจะจากกัน เพื่อนๆ อย่าลึมตรวจแบบฝึกหัดที่ได้ทำไปแล้วดูว่าเรามีทักษะในส่วนใดและต้องการการฝึกฝนในเรื่องใดนะคะ อย่าลืมนะคะว่า การที่ข้อสอบ IELTS ไม่มีการวัดความรู้ไวยากรณ์โดยตรงไม่ได้หมายความว่าไวยากรณ์ไม่มีความสำคัญค่ะ

แล้วพบกันตอนหน้านะคะ 😊

ใครที่สนใจเตรียมตัวสอบ IELTS หรือ กำลังหาคอร์สเรียน grammar สามารถแวะเข้าไปเยี่ยมชม Website สถาบัน Oxbridge ได้เลยนะคะ ♥

เฉลยแบบฝึกหัด

  1. exercise, don’t like
  2. shows, changed
  3. am doing, don’t want
  4. was watching, arrived
  5. started, haven’t decided
  6. took
  7. has changed, started
  8. be seen
  9. (is) sown
  10. were chosen
  11. can’t be
  12. can’t be
  13. might have changed
Faye.jpg

รู้จักสถาบัน OXBRIDGE จากการแนะนำของรุ่นพี่ มาเรียน IELTS ที่นี่แล้วรู้สึกไม่ผิดหวังเลยค่ะ เอกสารประกอบการเรียนที่นี่ดีมาก อาจารย์สอนดี อาจารย์และพี่ๆที่นี่น่ารักและเป็นกันเองมากค่ะ ขอบคุณที่ดูแลเป็นอย่างดีนะคะ

< * โดยผลคะแนนของนักเรียนแต่ละบุคคลอาจแตกต่างกันไปขึ้นกับพื้นฐานภาษาอังกฤษ ระยะเวลาในการเตรียมตัว และความมุ่งมั่นตั้งใจในการเตรียมสอบ >

พรปวีณ์ นีระสิงห์ (เฟย์)
Fang.jpg

ก่อนมาเรียนฟางไม่นึกเลยว่าการได้คะแนน Reading 9.0 สามารถเป็นไปได้ ต้องขอขอบคุณเทคนิคและความเอาใจใส่ของอาจารย์ทุกท่านจริงๆ ปกติฟางเป็นคนที่ไม่มีเวลามากนักในการเตรียมตัวสอบ เนื่องจากต้องเรียนและทำงานไปด้วย แต่ระบบการสอน IELTS ของ Oxbridge ช่วยให้ฟางสามารถเตรียมตัวได้ง่ายและประหยัดเวลามากค่ะ เหมือนอาจารย์ได้ย่อยความรู้ให้ ขยันฝึกเพิ่มขึ้นอีกนิดเชื่อว่าจะได้คะแนนตามที่คาดหวังไว้แน่นอนค่ะ

< * โดยผลคะแนนของนักเรียนแต่ละบุคคลอาจแตกต่างกันไปขึ้นกับพื้นฐานภาษาอังกฤษ ระยะเวลาในการเตรียมตัว และความมุ่งมั่นตั้งใจในการเตรียมสอบ >

ธนันต์ธรญ์ นีระสิงห์ (ฟาง)
Smile.jpg

คอร์ส IELTS ที่นี่ ช่วยได้มากเลยค่ะ ได้เทคนิคดีมากๆทั้ง 4 ทักษะ ที่ชอบที่สุดก็คือ Writing และ Reading โดยเฉพาะ Writing อาจารย์สอนเก่งมาก สอนให้เข้าใจเรื่องยากๆให้กลายเป็นเรื่องง่าย อาจารย์อธิบายให้เห็นภาพชัดเจนว่าโจทย์แต่ละแบบต้องเขียนแบบไหน หากอยากได้ Band สูงๆ จะต้องเขียนอย่างไร อาจารย์ตรวจงานทุกชิ้นละเอียดมากๆค่ะ อย่าง Reading ก่อนที่หนูจะมาเรียน ไม่รู้เลยว่าจะต้องอ่านยังไง อาจารย์ให้เทคนิคอ่านยังไงให้เร็ว ทันเวลา ให้เป็นประโยชน์ที่สุด ถ้าเจอคำถามแบบนี้ต้องอ่านยังไงให้คุ้มที่สุดทำให้ประทับใจมาก ก่อนหน้านี้หนูเคยไปเรียนที่อื่นที่ไม่ใช่ OXBRIDGE คอร์สเขามีหลายสเต็ปมากและเหมือนให้ความรู้ไม่หมดค่ะ เราต้องเรียนของเขาไปเรื่อยๆเป็นสเต็ปๆ แต่ชอบที่นี่เพราะให้ความรู้ครบและให้หนังสือเยอะมากค่ะ คุ้มมาก เคยเรียนที่อื่นแล้วแพงได้หนังสือน้อยแต่ที่นี่ได้หนังสือเยอะ เรียนคอร์สเดียวจบได้ครบทุกอย่างเลยค่ะ

< * โดยผลคะแนนของนักเรียนแต่ละบุคคลอาจแตกต่างกันไปขึ้นกับพื้นฐานภาษาอังกฤษ ระยะเวลาในการเตรียมตัว และความมุ่งมั่นตั้งใจในการเตรียมสอบ >

ปรียนันท์ ธำรงค์ธนกิจ (Smile)
Jirawas1.jpg

ดีใจมากค่ะที่ตัดสินใจเรียน IELTS ที่นี่ จิสอบครั้งเดียวหลังจากเรียนก็ผ่านมาได้สบายเลย อ. ที่นี่ทุกคนน่ารักและตั้งใจสอนมากค่ะ โดยเฉพาะ อ.ฝน ที่ดูแลนักเรียนในห้องได้ดีมาก จำได้ทุกคน และตรวจงานให้พวกเราแบบละเอียดจริงๆ ก่อนหน้านี้แทบไม่รู้อะไรเกี่ยวกับ IELTS เลย ลองทำข้อสอบดูก็ทำได้ไม่เท่ากับที่ตั้งใจ แต่หลังจากรู้เทคนิคและข้อผิดพลาดก็นำมาปรับแก้ไข และได้คะแนนที่ดีได้ค่ะ ขอบคุณ อ.ทุกท่าน และพี่ๆที่ Oxbridge ทุกคนจริงๆค่ะ ขอบคุณค่ะ ^^

< * โดยผลคะแนนของนักเรียนแต่ละบุคคลอาจแตกต่างกันไปขึ้นกับพื้นฐานภาษาอังกฤษ ระยะเวลาในการเตรียมตัว และความมุ่งมั่นตั้งใจในการเตรียมสอบ >

จิราวัส สอนคม
Korakrit.jpg

ผมลอง Search หาที่เรียน IELTS จากทั้ง Google และ Pantip เพื่อหาว่าที่เรียน IELTS ที่ไหนดีที่สุด จนกระทั่งมาพบกับ IELTS INSTITUTE วันแรกที่เข้าเรียนก็พบว่าการสอนค่อนข้างสนุก อีกทั้งการเรียนเป็นกลุ่มเล็ก ๆ ทำให้มีโอกาสถามคำถามที่สงสัยได้ทุกครั้ง ทำให้คะแนนที่ออกมาเกินกว่าที่คาดไว้อย่างมาก จากที่คิดว่าน่าจะได้ไม่เกิน 6.5 แต่ในที่สุดเมื่อสอบครั้งแรกพบว่าได้ 7.0 ทำให้ใช้เวลาที่เหลือในการเตรียมตัวเรื่องการไปเรียนต่อได้อย่างเต็มที่ ขอบคุณจากใจจริงครับ
< * โดยผลคะแนนของนักเรียนแต่ละบุคคลอาจแตกต่างกันไปขึ้นกับพื้นฐานภาษาอังกฤษ ระยะเวลาในการเตรียมตัว และความมุ่งมั่นตั้งใจในการเตรียมสอบ >

Korakrit Durongdej
Jay.jpg

I’m writing this to THANKS all of you who had been assisting me in the Preparation Course in the past few months. I’m delighted to inform you that, according to my second test report form attached, I achieved a much higher overall band score than I had ever expected (Band 8), particularly in my weakest skill : writing (Band 7). Without all your support, my success would not have been achieved.
< * โดยผลคะแนนของนักเรียนแต่ละบุคคลอาจแตกต่างกันไปขึ้นกับพื้นฐานภาษาอังกฤษ ระยะเวลาในการเตรียมตัว และความมุ่งมั่นตั้งใจในการเตรียมสอบ >

สิทธิดา จิตทักษะ (Jay)
Tuptim.jpg

It’s my best luck to study with Ajarn Fon, indeed. I really love her teaching style and I learn how to correct English grammar and how to fix my writing problems from her. She’s a superb English teacher!!
< * โดยผลคะแนนของนักเรียนแต่ละบุคคลอาจแตกต่างกันไปขึ้นกับพื้นฐานภาษาอังกฤษ ระยะเวลาในการเตรียมตัว และความมุ่งมั่นตั้งใจในการเตรียมสอบ >

สุภมน บุปผเวส (ทับทิม)
Da.jpg

เรียน IELTS ทั้งแบบกลุ่มและแบบตัวต่อตัว ประทับใจที่สุดคือคุณครูที่นี่ สอน ทุ่มเท และให้เวลาแก่นักเรียนทุกคนอย่างเต็มที่ ขอบคุณ Oxbridge มากค่ะ ที่ทำให้ได้ คะแนน IELTS Overall 8.5 ตามที่คาดหวังไว้

< * โดยผลคะแนนของนักเรียนแต่ละบุคคลอาจแตกต่างกันไปขึ้นกับพื้นฐานภาษาอังกฤษ ระยะเวลาในการเตรียมตัว และความมุ่งมั่นตั้งใจในการเตรียมสอบ >

 

Sirada Hongkajanapong