ประกาศ

คอร์สเรียน IELTS เดือนมกราคม วันเสาร์-อาทิตย์ เริ่ม 15 มกราคม, วันธรรมดาช่วงเย็น เริ่ม 21 มกราคม, วันธรรมดาช่วงบ่าย เริ่ม 26 มกราคม ตรวจสอบเวลาเรียนจากตารางได้เลยค่ะ
คอร์สเรียน Fundamentals of Academic Writing วันเสาร์-อาทิตย์ เริ่ม 22 มกราคม, วันธรรมดาช่วงบ่าย เริ่ม 28 มกราคม คอร์สนี้เต็มเร็ว หากสนใจแนะนำให้โทรจองที่ก่อนเลยค่ะ
คอร์สเรียน Grammar Brush up วันเสาร์-อาทิตย์ เริ่ม 23 มกราคม, วันธรรมดาช่วงเย็น เริ่ม 2 กุมภาพันธ์ ค่ะ
คอร์สเรียน Intensive IELTS Writing วันธรรมดาช่วงเย็น เริ่ม 19 มกราคม, วันเสาร์-อาทิตย์ เริ่ม 5 กุมภาพันธ์ ค่ะ
คอร์สเรียน Speaking & Pronunciation for IELTS วันธรรมดาช่วงเย็น เริ่ม 13 มกราคม, วันเสาร์-อาทิตย์ เริ่ม 5 กุมภาพันธ์ ค่ะ
คอร์ส English for Academic Purpose (Pre-Sessional English) วันธรรมดาช่วงเย็น เริ่ม 16 กุมภาพันธ์ ค่ะ

เทคนิคการใช้ Active – Passive Voice เมื่อต้องสอบ IELTS (ตอนที่ 1)

สรุปเรื่อง Active-Passive Voice (ตอนที่ 1)

เชื่อว่าเพื่อนๆ หลายคนคงเคยเรียนเกี่ยวกับ Active และ Passive Voice ในชั้นเรียนหรือที่สถาบันของเรา โดยเฉพาะในคอร์ส Grammar Brush-up (GR) กันมาบ้างแล้วนะคะ  บทความนี้ นำเรื่องนี้มาสรุปให้เพื่อนๆ อ่านทบทวนอีกครั้งหนึ่ง โดยเฉพาะเพื่อนๆ ที่เตรียมตัวสอบ IELTS จะได้นำความรู้นี้ไปใช้ได้อย่างถูกต้องค่ะ

 

เทคนิคการใช้ Active และ Passive Voice เมื่อต้องไปสอบ IELTS

เทคนิคการใช้ Active และ Passive Voice เมื่อต้องไปสอบ IELTS

            ในภาษาอังกฤษ Active Voice คือประโยคที่ประธานของประโยคนั้นเป็นผู้กระทำกริยา ซึ่งเราเรียกตามหลักภาษาศาสตร์ว่า Agent (ผู้กระทำ) ค่ะ แต่ถ้าประโยคนั้นเป็น Passive Voice ประธานของประโยคจะกลายเป็นผู้ถูกกระทำ หรือ Theme นะคะ

แล้วจะรู้ได้อย่างไรว่าประโยคไหนมีลักษณะ Active หรือ Passive Voice ? ไม่ยากค่ะ มีสองวิธี คือ

  1. ให้เพื่อนๆ สังเกตจากโครงสร้างของประโยคนั้นๆ

รูปประโยคแบบ Passive จะมีลักษณะโครงสร้าง ดังนี้

Verb to Be + กริยาช่องที่ 3 (กริยาแท้ที่เป็นรูป Past Participle) ตัวอย่างเช่น

Most of the trees were cut down to make way for a factory.

ในประโยคนี้ที่เป็นตัวอย่างมาจาก Task 1 ประเภท Map เพื่อนๆ จะเห็นว่าเป็นรูป Passive Voice เพราะประกอบด้วยกริยา be ที่อยู่ใน Past Simple ตามมาด้วยกริยาแท้คือ cut ซึ่งอยู่ในรูปของ Past Participle ค่ะ (to cut เป็น irregular verb ไม่เปลี่ยนรูปเลยทั้ง 3 ช่องเนอะ พอจำได้ใช่มั้ยคะ)

  1. ให้เพื่อนๆ ตีความหมายของประโยคค่ะ เช่น

จากประโยคข้างบน หมายความว่า ต้นไม้ส่วนใหญ่ถูกตัดเพื่อการสร้างโรงงาน เนื่องจากต้นไม้เป็นสิ่งที่ไม่มีชีวิต จึงตัดตัวเองไม่ได้ ต้องอาศัยมนุษย์เป็นผู้ตัด ในที่นี้ เราจะพบว่าเมื่อประโยคภาษาอังกฤษอยู่ในรูปโครงสร้างแบบ Passive Voice นั้น จะมีความหมายแนวๆ “ถูก”กระทำ นั่นเองค่ะ เช่น “ถูก”ตี “ถูก”ว่า “ถูก”เขียน อะไรประมาณนี้ค่ะ

แล้วเพื่อนๆ จะสร้างประโยค Passive Voice ได้อย่างไร?

ง่ายมากค่ะ เราแค่ทำตามขั้นตอนต่อไปนี้ค่ะ

Step 1  ในประโยค Active Voice ดูก่อนว่าประธานและกรรมของประโยคอยู่ส่วนไหน (ส่วนใหญ่ประธานจะอยู่ต้นประโยคและกรรมจะอยู่ต่อจากกริยาค่ะ) เช่น

English people usually have fish and chips for lunch.

ในประโยคข้างต้น เราจะเห็นว่า ประธานของประโยคคือ English people และกรรมของประโยคคือ fish and chips ค่ะ

Step 2  ย้ายกรรมของประโยค Active Voice มาเป็นประธานของประโยค Passive Voice

Fish and chips usually have English people for lunch.

Step 3 เติม Verb to Be ที่ผันตามประธานตัวใหม่ (ตาม tense เดิม)

Fish and chips is usually have English people for lunch.

** Fish and chips ถือว่าเป็น singular entity (เอกพจน์) นะคะ**

Step 4 ผันกริยาแท้ให้เป็น Verb ช่องที่ 3 (Past Participle) ค่ะ

Fish and chips is usually had English people for lunch.

Step 5 เติม Preposition “by” ข้างหลังกริยาแท้

Fish and chips is usually had by English people for lunch.

จุดสังเกตเพิ่มเติมว่า ประโยค Passive voice ของเรา ถูกต้องยัง มีประมาณนี้ค่ะ

  1. Verb to be อยู่ในรูป tense เดิมของประโยค Active Voice (ซึ่งก็คือ Present Simple Tense นะคะ)
  2. ประธานของประโยค Active Voice จะถูกย้ายตำแหน่งกลายไปเป็นกรรมตามหลัง Preposition “by” ที่จะวางไว้หลังกริยาแท้ (had) ในบางกรณี ถ้าพอรู้อยู่แล้วว่าทำโดยใคร ส่วนของ “by + Noun” นี้ อาจจะละไปเลยก็ได้นะคะ

สรุปแล้ว การใช้ประโยค Passive Voice เป็นการเน้นที่ผู้ถูกกระทำมากกว่าผู้กระทำ หรือจะใช้ในกรณีที่เราไม่รู้ว่าใครเป็นผู้กระทำอย่างแน่ชัด ก็ได้ค่ะ เช่น

Christina Grimmie was shot and killed after a concert in Florida on Friday night.  

  Christina Grimmie ถูกยิง และเสียชีวิตหลังคอนเสิร์ตในรัฐฟลอริดาเมื่อคืนวันศุกร์

(เน้นที่ผู้ถูกยิงมากกว่าผู้ยิง)

– My folder has been moved from where it used to be.

  แฟ้มของฉันถูกย้ายไปจากที่ที่มันเคยอยู่

  (ไม่รู้ว่าใครเป็นคนย้าย)  

 

เนื่องจากกริยา To be ใน Passive Voice จะบอก Tense ของประโยค ดังนั้น เพื่อนๆ จะต้องจดจำให้ได้ว่า Tense ต่างๆ ของภาษาอังกฤษมีรูปแบบอย่างไรด้วย ตามรายละเอียดข้างล่างนี้เลยค่ะ จะได้ช่วยจำนะคะ ส่วนกริยาที่อยู่ในวงเล็บเป็นกริยาแท้ที่ผันในรูปกริยาช่องที่สามตามแต่ประโยคใน Active Voice ค่ะ

Present Simple Tense – is/am/are (told)

Present Continuous Tense – is/am/are being (told)

Present Perfect Simple Tense – has/have been (told)

Present Perfect Continuous Tense – has/have been being (told)

Past Simple Tense – was/were (told)

Past Continuous Tense – was/were being (told)

Past Perfect Simple Tense – had been (told)

Past Perfect Continuous Tense – had been being (told)

Future Simple Tense – will be (told)

Future Continuous Tense – will be being (told)

Future Perfect Simple Tense – will have been (told)

Future Perfect Continuous Tense – will have been being (told)

นอกจาก 12 tense forms นี้แล้ว ยังมี

– รูป Passive Voice แบบ infinitive : to be + กริยาช่องที่สาม เช่น

The boss wanted the work to be done by Friday.

– รูปประโยค Passive Voice ในประโยคที่มี Modal verbs (เช่น can, must, have to เป็นต้น) : Modal verb + be + กริยาช่องที่สาม เช่น

Rio 2016 Summer Olympics will be held in Rio de Janeiro, Brazil.

 

เพื่อให้เพื่อนๆ ทบทวนความรู้ที่ได้เรียนมาเกี่ยวกับ Active-Passive Voice ในภาษาอังกฤษ เรามาทำแบบฝึกหัดกันหน่อยค่ะ

ให้เพื่อนๆ ลองสังเกตว่าประโยคใดบ้างต่อไปนี้อยู่ในรูป Active และประโยคใดอยู่ในรูป Passive นะคะ มาเริ่มกันเลยค่ะ (อย่าขี้โกงดูเฉลยก่อนนะคะ 🙂)

  1. In my viewpoint, over-70s should be made to retake driving tests.
  2. According to Prime Minister David Cameron, Brexitis “a threat not only to British economic and national security” .
  3. The thief was arrested by the police last week thanks to CCTV.
  4. More than 1,000 jobs are to be lost with theclosure of 120 Austin Reed outlets .
  5. The oil price plunge has forced the company to lay off some staff.
  6. BHShas been forced out of business.
  7. The Queen’s90th birthday was celebrated on June 12, 2016. 
  8. The UK will hold areferendum on June 23 to decide if it will stay in or leave the European Union .
  9. Areferendum will be held on June 23 to decide if the UK will stay in or leave the European Union.
  10. Britain has crowned 25-year-old magician Richard Jones the tenth champion ofBritain’s Got Talent 2016.
  11. Microcephaly is caused by Zika infection.
  12. Britainhas pledged to take in 4000 Syrian refugees a year until 2020.

เฉลย! ประโยคที่อยู่ในรูป Passive Voice คือ ประโยคที่ 1,3,4,6,7, 9 และ 11 ค่ะ ทำถูกไปกี่ข้อกันเอ่ย

ตัวอย่างประโยคเหล่านี้ มีประโยชน์สำหรับการสอบ Speaking และ Writing ด้วยนะคะ หลายๆ ประโยค ช่วยเพิ่มความรู้รอบตัวที่เกี่ยวข้องกับสหราชอาณาจักรให้ด้วย ซึ่งจะสามารถนำไปใช้ยกตัวอย่างเวลาสอบได้ด้วยค่ะ

คราวหน้า เราจะมาสรุปเกร็ดย่อย ๆ ของประโยคแบบ Passive Voice ในภาษาอังกฤษกันต่อนะคะ แล้วเจอกันค่ะ 🙂

[ติวสอบ IELTS] สรุปเรื่อง Active-Passive Voice (ตอนที่ 2)

Oxbridge Institute

Faye.jpg

รู้จักสถาบัน OXBRIDGE จากการแนะนำของรุ่นพี่ มาเรียน IELTS ที่นี่แล้วรู้สึกไม่ผิดหวังเลยค่ะ เอกสารประกอบการเรียนที่นี่ดีมาก อาจารย์สอนดี อาจารย์และพี่ๆที่นี่น่ารักและเป็นกันเองมากค่ะ ขอบคุณที่ดูแลเป็นอย่างดีนะคะ

< * โดยผลคะแนนของนักเรียนแต่ละบุคคลอาจแตกต่างกันไปขึ้นกับพื้นฐานภาษาอังกฤษ ระยะเวลาในการเตรียมตัว และความมุ่งมั่นตั้งใจในการเตรียมสอบ >

พรปวีณ์ นีระสิงห์ (เฟย์)
Fang.jpg

ก่อนมาเรียนฟางไม่นึกเลยว่าการได้คะแนน Reading 9.0 สามารถเป็นไปได้ ต้องขอขอบคุณเทคนิคและความเอาใจใส่ของอาจารย์ทุกท่านจริงๆ ปกติฟางเป็นคนที่ไม่มีเวลามากนักในการเตรียมตัวสอบ เนื่องจากต้องเรียนและทำงานไปด้วย แต่ระบบการสอน IELTS ของ Oxbridge ช่วยให้ฟางสามารถเตรียมตัวได้ง่ายและประหยัดเวลามากค่ะ เหมือนอาจารย์ได้ย่อยความรู้ให้ ขยันฝึกเพิ่มขึ้นอีกนิดเชื่อว่าจะได้คะแนนตามที่คาดหวังไว้แน่นอนค่ะ

< * โดยผลคะแนนของนักเรียนแต่ละบุคคลอาจแตกต่างกันไปขึ้นกับพื้นฐานภาษาอังกฤษ ระยะเวลาในการเตรียมตัว และความมุ่งมั่นตั้งใจในการเตรียมสอบ >

ธนันต์ธรญ์ นีระสิงห์ (ฟาง)
Smile.jpg

คอร์ส IELTS ที่นี่ ช่วยได้มากเลยค่ะ ได้เทคนิคดีมากๆทั้ง 4 ทักษะ ที่ชอบที่สุดก็คือ Writing และ Reading โดยเฉพาะ Writing อาจารย์สอนเก่งมาก สอนให้เข้าใจเรื่องยากๆให้กลายเป็นเรื่องง่าย อาจารย์อธิบายให้เห็นภาพชัดเจนว่าโจทย์แต่ละแบบต้องเขียนแบบไหน หากอยากได้ Band สูงๆ จะต้องเขียนอย่างไร อาจารย์ตรวจงานทุกชิ้นละเอียดมากๆค่ะ อย่าง Reading ก่อนที่หนูจะมาเรียน ไม่รู้เลยว่าจะต้องอ่านยังไง อาจารย์ให้เทคนิคอ่านยังไงให้เร็ว ทันเวลา ให้เป็นประโยชน์ที่สุด ถ้าเจอคำถามแบบนี้ต้องอ่านยังไงให้คุ้มที่สุดทำให้ประทับใจมาก ก่อนหน้านี้หนูเคยไปเรียนที่อื่นที่ไม่ใช่ OXBRIDGE คอร์สเขามีหลายสเต็ปมากและเหมือนให้ความรู้ไม่หมดค่ะ เราต้องเรียนของเขาไปเรื่อยๆเป็นสเต็ปๆ แต่ชอบที่นี่เพราะให้ความรู้ครบและให้หนังสือเยอะมากค่ะ คุ้มมาก เคยเรียนที่อื่นแล้วแพงได้หนังสือน้อยแต่ที่นี่ได้หนังสือเยอะ เรียนคอร์สเดียวจบได้ครบทุกอย่างเลยค่ะ

< * โดยผลคะแนนของนักเรียนแต่ละบุคคลอาจแตกต่างกันไปขึ้นกับพื้นฐานภาษาอังกฤษ ระยะเวลาในการเตรียมตัว และความมุ่งมั่นตั้งใจในการเตรียมสอบ >

ปรียนันท์ ธำรงค์ธนกิจ (Smile)
Jirawas1.jpg

ดีใจมากค่ะที่ตัดสินใจเรียน IELTS ที่นี่ จิสอบครั้งเดียวหลังจากเรียนก็ผ่านมาได้สบายเลย อ. ที่นี่ทุกคนน่ารักและตั้งใจสอนมากค่ะ โดยเฉพาะ อ.ฝน ที่ดูแลนักเรียนในห้องได้ดีมาก จำได้ทุกคน และตรวจงานให้พวกเราแบบละเอียดจริงๆ ก่อนหน้านี้แทบไม่รู้อะไรเกี่ยวกับ IELTS เลย ลองทำข้อสอบดูก็ทำได้ไม่เท่ากับที่ตั้งใจ แต่หลังจากรู้เทคนิคและข้อผิดพลาดก็นำมาปรับแก้ไข และได้คะแนนที่ดีได้ค่ะ ขอบคุณ อ.ทุกท่าน และพี่ๆที่ Oxbridge ทุกคนจริงๆค่ะ ขอบคุณค่ะ ^^

< * โดยผลคะแนนของนักเรียนแต่ละบุคคลอาจแตกต่างกันไปขึ้นกับพื้นฐานภาษาอังกฤษ ระยะเวลาในการเตรียมตัว และความมุ่งมั่นตั้งใจในการเตรียมสอบ >

จิราวัส สอนคม
Korakrit.jpg

ผมลอง Search หาที่เรียน IELTS จากทั้ง Google และ Pantip เพื่อหาว่าที่เรียน IELTS ที่ไหนดีที่สุด จนกระทั่งมาพบกับ IELTS INSTITUTE วันแรกที่เข้าเรียนก็พบว่าการสอนค่อนข้างสนุก อีกทั้งการเรียนเป็นกลุ่มเล็ก ๆ ทำให้มีโอกาสถามคำถามที่สงสัยได้ทุกครั้ง ทำให้คะแนนที่ออกมาเกินกว่าที่คาดไว้อย่างมาก จากที่คิดว่าน่าจะได้ไม่เกิน 6.5 แต่ในที่สุดเมื่อสอบครั้งแรกพบว่าได้ 7.0 ทำให้ใช้เวลาที่เหลือในการเตรียมตัวเรื่องการไปเรียนต่อได้อย่างเต็มที่ ขอบคุณจากใจจริงครับ
< * โดยผลคะแนนของนักเรียนแต่ละบุคคลอาจแตกต่างกันไปขึ้นกับพื้นฐานภาษาอังกฤษ ระยะเวลาในการเตรียมตัว และความมุ่งมั่นตั้งใจในการเตรียมสอบ >

Korakrit Durongdej
Jay.jpg

I’m writing this to THANKS all of you who had been assisting me in the Preparation Course in the past few months. I’m delighted to inform you that, according to my second test report form attached, I achieved a much higher overall band score than I had ever expected (Band 8), particularly in my weakest skill : writing (Band 7). Without all your support, my success would not have been achieved.
< * โดยผลคะแนนของนักเรียนแต่ละบุคคลอาจแตกต่างกันไปขึ้นกับพื้นฐานภาษาอังกฤษ ระยะเวลาในการเตรียมตัว และความมุ่งมั่นตั้งใจในการเตรียมสอบ >

สิทธิดา จิตทักษะ (Jay)
Tuptim.jpg

It’s my best luck to study with Ajarn Fon, indeed. I really love her teaching style and I learn how to correct English grammar and how to fix my writing problems from her. She’s a superb English teacher!!
< * โดยผลคะแนนของนักเรียนแต่ละบุคคลอาจแตกต่างกันไปขึ้นกับพื้นฐานภาษาอังกฤษ ระยะเวลาในการเตรียมตัว และความมุ่งมั่นตั้งใจในการเตรียมสอบ >

สุภมน บุปผเวส (ทับทิม)
Da.jpg

เรียน IELTS ทั้งแบบกลุ่มและแบบตัวต่อตัว ประทับใจที่สุดคือคุณครูที่นี่ สอน ทุ่มเท และให้เวลาแก่นักเรียนทุกคนอย่างเต็มที่ ขอบคุณ Oxbridge มากค่ะ ที่ทำให้ได้ คะแนน IELTS Overall 8.5 ตามที่คาดหวังไว้

< * โดยผลคะแนนของนักเรียนแต่ละบุคคลอาจแตกต่างกันไปขึ้นกับพื้นฐานภาษาอังกฤษ ระยะเวลาในการเตรียมตัว และความมุ่งมั่นตั้งใจในการเตรียมสอบ >

 

Sirada Hongkajanapong