ในช่วงนี้บ้านเราอากาศเปลี่ยนแปลงบ่อย ทั้งร้อนทั้งหนาว แถมยังมีฝนตกตกลงมาอีก ดังนั้นเราจะต้องเตรียมพร้อมรับมือกับสภาพดินฟ้าอากาศที่เปลี่ยนแปลงในแต่ละวัน พี่จึงนำหลักการอ่านข่าวพยากรณ์อากาศมาให้น้องๆลองศึกษากันค่ะ
The Weather Bangkok Today
THE WEATHER
Bangkok today
Cloudy. Scattered showers and thundershowers.
SW: winds 10-30 kph.
High: 34 Low: 26 (94/79 F)
Bangkok port: Sun rises 06:09.
Sets 18:36. High water 11: 23 and 21:50.
Low water 05:25 and 16:28.
YESTERDAY
High 34, low 26 (93/79F)
Region by region
The low-pressure ZITA has moved west.
A low-pressure trough across the North
and the Northeast is intensifying. Flash flood
warnings for the North and South. All small boats should stay ashore.
CENTRAL : Heavy rain in the west.
NORTH : Cloudy with isolated heavy and heavy falls.
NORTHEAST: Cloudy with isolated heavy rainfall.
EAST: Partly cloudy, showers. Moderate seas, rough offshore.
SOUTH, EAST: Mostly cloudy. Scattered or heavy rainfall from Chumporn to Songkhla. SW
winds 20-40 kph.
Moderate to rough seas.
Hat Yai: High 34, Low 25 (93/77 F)
SOUTH, WEST: Widespread showers, with isolated
heavy falls. SW winds 20-40 kph. Sea: moderate,
occasionally rough. Phuket: High 33, Low 25 (91/77F)
การพยากรณ์อากาศ ในภาษาอังกฤษใช้คำว่า The weather forecast ซึ่งการที่เรียกเช่นนั้นก็เพราะคำว่า forecast คือการคาดคะเน มาจากการรวมตัวกันของคำว่า fore และ cast หมายถึงคำนวณไว้ก่อน ซึ่งก็คือ การคาดการณ์ คำนี้อ่านว่า ฟอร์ แคสท์ ถ้าพูดถึงอากาศในประเทศใช้ว่า local อากาศในต่างแดน เรียกว่า international และอากาศในแต่ละภาคจะใช้คำว่า regional ค่ะ ส่วนคำว่านักอุตุนิยมวิทยานั้น เรียกว่า meteorologist อ่านว่า มีเทียอาเลอจิลท์ ส่วนวิชาพยากรณ์อากาศ หรืออุตุนิยมวิทยานั้นใช้ว่า meteorology มีเทียอาเลอจี้ ค่ะ และส่วนคำที่ใช้บรรยายดินฟ้าอากาศ เราสามารถจำได้จากรูปคำนามของตัวมันเอง เช่น ฝน เรียกว่า rain ลมนั้นก็คือ wind แล้วเราก็จัดการเอา Y เติมเข้าไป ซึ่งหมายถึง เต็มไปด้วย ก็จะมีความหมายดังนี้
rain + y ——–rainy = ฝนซุก
sun + ny ——-sunny = แดดจัด
fog + gy——–foggy = หมอกหนา
snow + y——-snowy = หิมะเยอะ
cloud + y——-cloudy = เมฆมาก
storm + y——-stormy = พายุแรง
wind + y ——-windy = ลมแรง
shower + y —-showery = ฝนเยอะ
คำว่า scattered มาจากคำกริยาว่า to scatter แต่ถูกนำมาเติม –ed เข้า เพราะเขาต้องการหมายถึง “ที่ถูกทำให้กระจัดกระจาย แปลว่า “ที่กระจัดกระจาย” เช่น Scattered showers ซึ่งก็คือ ที่มีฝนกระจาย ส่วนคำว่า showers นั้น จะให้ดีต้องนึกถึงเวลาที่อาบน้ำด้วยฝักบัวที่บ้านกันค่ะ ส่วนคำว่า thundershowers ก็จะหมายถึง “ฝนฟ้าคะนอง” ในภาษาไทยเรา ยังมีอีกคำหนึ่งที่เขาชอบใช้ในการบรรยายฝนที่ตกโดยทั่วไปนั่นคือ widespread คำนี้ก็เห็นภาพอีกเช่นกัน เพราะมาจากการรวมตัวกันของคำว่า wide ซึ่งหมายถึง “กว้าง” และ spread ซึ่งแปลว่า “แผ่ออกไป” เช่น widespread showers ก็จะหมายถึง สภาพฝนตกโดยทั่วไป และยังมีอีกหนึ่งคำที่ใช้กันบ่อยก็คือ isolated คำนี้ออกเสียงว่า ไอเสอะเลเทิ่ด ซึ่งหมายถึง “ที่เกิดขึ้นเป็นแห่งๆ เป็นหย่อมๆ” คำนี้มาจากกริยาคือ isolate อันหมายถึง “แยกตัวออกไป” ส่วนคำที่ปรากฏในข่าวว่า isolated heavy rainfall ก็จะหมายถึงว่า ฝนตกหนักเป็นบางแห่งค่ะ ทีนี้คำว่า rain กับ rainfall นั้น มันแตกต่างกันตรงไหน อันที่จริงก็ไม่ต่างกันมาก คือคำว่า rain นั้นหมายถึง ฝน ส่วนคำว่า rainfall นั้นไปเน้นที่ปริมาณฝนที่พื้นที่นั้นๆ ส่วนผลที่เกิดจากการที่ฝนตกหนัก ก็เห็นจะหนีไม่พ้นสภาพน้ำท่วม เรียกว่า flood และถ้าบังเอิญมันมาแบบชนิดที่ตั้งตัวไม่ติดเขาก็ใช้ว่า Flash flood ซึ่งหมายถึง “ภาวะน้ำท่วมฉับพลัน” และคำว่า Warnings ก็คือ คำเตือนค่ะ และคำที่ใช้บรรยายว่าอะไรมันหนัก เบา หรือปานกลางนั้น เขาใช้ว่า Heavy = หนัก moderate = ปานกลาง อ่านว่า ม๊าดเดอะเริท และ light = ที่มาแบบเบาๆ ส่วนคำว่า rough นั้นคือ ที่ไม่สงบ ที่ไม่ราบรื่น ในที่นี้จะหมายถึง คลื่นลมแรง โดยสำนวนว่า to stay ashore นั้นคือ อยู่ใกล้ฝั่งเข้าไว้ มิฉะนั้นจะเป็นอันตราย ส่วน offshore นั้นก็คือ ออกจากฝั่ง เช่น offshore wind ก็คือ ลมที่พัดออกจากฝั่งหรือลมทะเล ส่วนลมที่พัดเข้าหาฝั่งเขาเรียกว่าลมบก ในภาษาอังกฤษเขาเรียกว่า inshore wind ชาวประมงเขาพึ่งลมทั้งสองประเภทนี้ในการออกไล่ล่าหาปลา ส่วนคำว่า occasional นั้นหมายถึง ที่เกิดขึ้นแบบเป็นระยะๆ อ่านว่า เออะเคเชิ่นเนิล
ในการพยากรณ์อากาศนั้นจะนำทิศทั้งหมดมาใช้กัน เช่น
คำย่อ คำเต็ม
N North = ทิศเหนือ
S South = ทิศใต้
W West = ทิศตะวันตก
E East = ทิศตะวันออก
จากนั้นก็จับเอาตัวย่อนั้นตัวย่อนี้มาวางไว้หน้าตัวนั้นบ้างตัวนี้บ้าง แล้วก็จะได้ทิศทางตามประสงค์โดยเอาคำว่า เฉียง มาแทรกไว้ตรงกลาง เช่น
NE ก็คือ Northeast = ทิศตะวันออกเฉียงเหนือ
NW ก็คือ Northwest = ทิศตะวันตกเฉียงเหนือ
SE ก็คือ Southeast = ทิศตะวันออกเฉียงใต้
SW ก็คือ Southwest = ทิศตะวันตกเฉียงใต้
เมื่อนำเอาคำเหล่านี้มาขยายคำว่า wind ก็จะหมายถึง “ลมที่มาจากทางทิศของมัน” ค่ะ น้องๆอาจจะพบคำในรูปของคำคุณศัพท์อื่นๆ ดังที่จะแจงให้ดูต่อไปนี้ คือนำเอาคำว่า –erly เข้าไปเติมหลังทิศต่างๆ เช่น Northerly, southerly, westerly, easterly, northwesterly, northeasterly, southwesterly และ southeasterly ทั้งหมดจะแปลว่าที่มาจากทิศนั้นๆ หรือลมฝ่ายนั้นๆค่ะ ส่วนคำย่อ kph ก็ย่อมาจาก kilometer per hour แปลว่า กิโลเมตรต่อชั่วโมง ซึ่งสำนวนที่ว่ากระแสน้ำขึ้นลงนั้นเขาใช้ว่า high water / tide หรือ low / water / tide และคำว่า depression คือสภาพความกดอากาศต่ำ ซึ่งส่อแววว่าฝนจะเทลงมา หรือ A low-pressure trough ก็คือ “ร่องความกดอากาศต่ำ” ส่วนคำว่า alert อ่านว่า เออะ เลิร์ท ซึ่งถ้าเจอเข้าที่ใดก็หมายความว่า ต้องระวังระไว เช่น A flash flood alert remains in effect. ก็คือ การระวังน้ำท่วมยังคงมีผลอยู่ และสำนวนว่า To persist in หมายถึง สิ่งนั้นยังคงอยู่ต่อไป อ่านว่า เพอซิ๊สท์ เช่น Meteorological Department forecasts that rain still persists in this area throughout the week. หมายถึง กรมอุตุพยากรณ์ว่าฝนยังคงจะตกต่อไปในบริเวณนี้ตลอดทั้งสัปดาห์ค่ะ
สุดท้ายนี้น้องๆก็อย่าลืมรักษาสุขภาพกันด้วยนะคะ อย่าปล่อยให้ไม่สบายเดี๋ยวจะไม่มีแรงเตรียมตัวสอบ IELTS
และถ้ายังงงๆกับข่าวพยากรณ์อากาศกันอยู่ ก็ลองฝึกฟังหรืออ่านเพิ่มเติมกันอีกซักนิด เพื่อจะได้เป็นประโยชน์กับน้องๆเมื่อไปใช้ชีวิตในต่างประเทศที่ต้องเผชิญกับความแปรปรวนของอากาศในทุกๆวันด้วยค่ะ
พี่กิฟท์ IELTSInstitute
เครดิต: bu.ac.th